
เรื่อง รู้เก็บรู้ใช้
ผู้เขียน:องอาจ จิระอร กองบรรณาธิการ: ผาณิต เกิดโชคชัย ปนัดดาเพิ่มประโยชน์ ศิรินประภา วรรบูรณ์
อำนวยการผลิต:ฝ่ายสื่อพิมพ์ ตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย 62ถนนรัชดาภิเษก เเขวงคลองเตยเขตคลองเตย กรุงเทพ10110 ภาพประกอบ:ฐิติยา จันทร์หอมไกล
เรื่องรู้เก็บรู้ใช้เป็นพื้นฐานสำคัญโดยเป็นก้าวเเรกของความมั่นคงเเละเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกๆสังคมเริ่มจากหน่วยย่อยสุดคือตัวเราจากครอบครัวไปจนถึงสังคมระดับประเทศ ตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทยได้ตระหนักเเละเห็นความสำคัญของการ"รู้เก็บรู้ใช้"เเละมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังวัฒนธรรมการออมเเละการใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า รู้เก็บ รู้ใช้ เป็นโครงการประกวดเรื่องสั้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนพับลิชชิ่งจำกัด (มหาชน) ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไป ได้ถ่ายทอดจินตนา ความคิด และประสบการณ์เกี่ยวกับการออม การใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า ผลงานสร้างสรรค์อำนวยประโยชน์ให้ผู้อ่าน ทั้งมุมมองของการรู้เก็บ รู้ใช้ คู่กับความเพลิดเพลินในเรื่องสั้นเรื่องต่างๆ ที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
หนังสือเล่มนี้ เป็นการรวมผลงานเรื่องสั้นที่เข้ารอบ โดยแบ่งเป็น 2 เล่ม คือ ผลงานระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา และรวมผลงานของประชาชนทั่วไป
1ความเพียร
1ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ
2ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับ
3ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ
4คนเราจะต้องรับเเละจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้
5อ่อนโยนเเต่ไม่อ่อนเเอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
6พูดริงทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี บุคคลและส่วนรวม
2ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับ
3ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ
4คนเราจะต้องรับเเละจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้
5อ่อนโยนเเต่ไม่อ่อนเเอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
6พูดริงทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี บุคคลและส่วนรวม
7. หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
8. ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
9. การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น